โฮราชิโอ เฮอร์เบิร์ต คิตชิเนอร์ เอิร์ลคิตชิเนอร์ที่ 1 (
อังกฤษ: Horatio Herbert Kitchener, 1st Earl Kitchener, 24 มิถุนายน ค.ศ. 1850 – 5 มิถุนายน ค.ศ. 1916) เป็นนายทหารอาวุโสของ
กองทัพบกสหราชอาณาจักรและผู้ปกครองอาณานิคม
ชาวแองโกล-ไอริช คิตชิเนอร์โดดเด่นจากการณรงค์ของจักรวรรดิบริติช การใช้
กลยุทธ์ผลาญภพกับ
ชาวบัวร์ การขยายค่ายกักกันของ
ลอร์ดรอเบิตส์ระหว่าง
สงครามบูร์ครั้งที่สอง[1][2] และมีบทบาทสำคัญช่วงต้น
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งคิตชิเนอร์เกิดในค.ศ. 1850 ที่เมือง
บอลลีลองฟอร์ดใน
ไอร์แลนด์ เป็นบุตรของเฮนรี โฮราชิโอ คิตชิเนอร์กับฟรานเชส แอนน์ เชวาลเลียร์
[3] ต่อมาครอบครัวย้ายไปอยู่ที่
สวิตเซอร์แลนด์ คิตชิเนอร์เรียนที่โรงเรียนในเมือง
มงเทรอและวิทยาลัยทหารที่เมือง
วูลิช[4][5] ก่อนจะเข้าร่วมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของฝ่ายฝรั่งเศสใน
สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย แต่พ่อของเขาพาตัวกลับบริเตนหลังคิตชิเนอร์ล้มป่วยด้วยโรค
ปอดบวม[5] ต่อมาในค.ศ. 1871 คิตชิเนอร์ร่วมสังกัดเหล่าทหารช่างและถูกส่งไปทำงานสำรวจใน
ตะวันออกกลาง[3] ระหว่างค.ศ. 1874–1878 คิตชิเนอร์สำรวจปาเลสไตน์เพื่อทำแผนที่ก่อนจะย้ายไป
ไซปรัสเพื่อสำรวจทำแผนที่เช่นกัน
[5]ค.ศ. 1883 คิตชิเนอร์ถูกส่งไป
อียิปต์ ที่นั่นเขามีส่วนในการพัฒนากองทัพอียิปต์ซึ่งในขณะนั้นเป็นรัฐหุ่นเชิดของบริเตนและสนับสนุน
การสู้รบกับกลุ่ม
มะฮ์ดีใน
ซูดาน[6] ค.ศ. 1898 คิตชิเนอร์มีชื่อเสียงหลังได้รับชัยชนะใน
ยุทธการที่ออมเดอร์มาน ส่งผลให้การปกครองซูดานมั่นคงขึ้นและเขาได้รับแต่งตั้งเป็นบารอนคิตชิเนอร์แห่งคาร์ทูม คิตชิเนอร์เป็นเสนาธิการในสงครามบูร์ครั้งที่สอง
[4] มีส่วนสำคัญในการช่วยลอร์ดรอเบิตส์พิชิต
สาธารณรัฐบัวร์ เขาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุดต่อจากรอเบิตส์ในช่วงเวลาที่ชาวบัวร์ทำสงครามกองโจรและกองทัพบริติชคุมขังชาวบัวร์ในค่ายกักกัน ต่อมาคิตชิเนอร์ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุดในอินเดีย ก่อนจะกลับไปอียิปต์เพื่อดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่เมื่อสงครามโลกครั้งที่หนึ่งอุบัติขึ้นใน ค.ศ. 1914 คิตชิเนอร์ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสงคราม เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่คาดการณ์ว่าสงครามจะยืดเยื้ออย่างน้อยสามปี จึงจัดตั้งกองทัพอาสาสมัครที่เรียกว่า
กองทัพของคิตชิเนอร์ขึ้น
[7] ในค.ศ. 1915 คิตชิเนอร์ถูกกล่าวโทษเรื่องการขาดแคลนกระสุนปืนใหญ่ ส่งผลให้เขาถูกปลดจากหน้าที่ดูแลยุทโธปกรณ์และกลยุทธ
[8] เรื่องอื้อฉาวนี้ร่วมกับความล้มเหลวใน
การทัพกัลลิโพลีส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของคิตชิเนอร์ในช่วงบั้นปลายอย่างมาก
[9] วันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1916 คิตชิเนอร์เดินทางไปเจรจากับ
จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซียด้วย
เรือหลวงแฮมป์เชียร์ ก่อนเรือจะอับปางเมื่อชนทุ่นระเบิดของเยอรมันทางตะวันตกของกลุ่มเกาะ
ออร์กนีย์ ตอนเหนือของสกอตแลนด์ ส่งผลให้ผู้โดยสาร 737 คนรวมทั้งคิตชิเนอร์เสียชีวิต
[10]